ความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 50 ปีระหว่างไทยและโปแลนด์

ความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 50 ปีระหว่างไทยและโปแลนด์

วันที่นำเข้าข้อมูล 22 ก.พ. 2565

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 1,054 view
เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515 เป็นวันสำคัญของประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและโปแลนด์ เนื่องจากเป็นวันที่ทั้งสองประเทศได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการ ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก และจากวันนั้นถึงปี 2565 นี้ ทั้งสองประเทศได้เป็นมิตรกันยาวนานครบ 50 ปี การแลกเปลี่ยนหนังสือแสดงเจตจำนงเพื่อสถาปนาความสัมพันธ์กันในวันนั้น เป็นพื้นฐานของการแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในวันนี้ ทำให้มีคนไทยจำนวนไม่น้อยมาตั้งรกราก สร้างครอบครัว ทำมาหาเลี้ยงชีพ หรือศึกษาหาความรู้อยู่ในโปแลนด์ รวมถึงการค้า การลงทุน การท่องเที่ยวระหว่างกัน ในขณะเดียวกันมีชาวโปแลนด์จำนวนมากที่ลงหลักปักฐานอยู่ในประเทศไทยและเป็นคู่ค้ากับคนไทย
ในวาระสำคัญนี้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ จึงขอใช้โอกาสแห่งความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 50 ปีระหว่างไทยและโปแลนด์นำเสนอบทความ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศในทุกวันที่ 14 ของเดือนตลอดปี 2565 ทั้งภาษาไทยและภาษาโปลิช เพื่อบอกเล่าเกร็ดความรู้มุมต่าง ๆ ด้านความสัมพันธ์ระหว่างมิตรประเทศทั้งสอง เพื่อให้พี่น้องชาวไทยและชาวโปแลนด์ได้เข้าใจถึงสัมพันธไมตรีในวันนี้ว่า มีความเป็นมาเป็นไปอย่างไร และทั้งสองประเทศมีมิติความสัมพันธ์กันที่หลากหลายด้านใดบ้าง
สำหรับโอกาสความสัมพันธ์ครบ 50 ปีนี้ เป็นความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการ แต่ก่อนหน้านี้ในรัชสมัยล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 (พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว) มีเหตุการณ์ครั้งสำคัญเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2440 คือพระองค์ได้เสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ 1 และได้เสด็จเยือนวอร์ซอเป็นเวลา 2 วัน
การเสด็จประพาสยุโรปครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญต่อหน้าประวัติศาสตร์การต่างประเทศของไทย โดยเฉพาะในช่วงยุคล่าอาณานิคม เนื่องจากทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกจากเอเชียที่เสด็จข้ามน้ำข้ามสมุทรมาเยือนยุโรป โดยเสด็จออกจากประเทศไทยเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2440 และเสด็จนิวัติพระนครในวันที่ 16 ธันวาคม ปีเดียวกัน รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 253 วัน รวมเสด็จเยือนประเทศในยุโรปทั้งสิ้น 10 ประเทศ ซึ่งระหว่างการเสด็จอันยาวนานนั้น ในวันที่ 1 กรกฎาคม ได้เสด็จมายังวอร์ซอ และได้ประทับแรมที่พระราชวัง Łazienki (วาเชียงกิ) เป็นเวลา 1 คืน
พระราชวัง Łazienki ตั้งอยู่ใน Łazienki Park ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดของวอร์ซอ มีขนาดประมาณ 475 ไร่ (ใหญ่กว่าสวนลุมพินีของกรุงเทพฯ ที่มีขนาดประมาณ 360 ไร่) เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่มากมาย พระราชวังแห่งนี้เป็นอาคารเก่าแก่ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2217 โดยขุนนางชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่งของโปแลนด์เพื่อเป็นสถานที่อาบน้ำ และต่อมาในปี พ.ศ. 2309 พระเจ้า Stanisław II Augustus ได้ขอซื้อสถานที่นี้ไว้และแปลงเป็นพระราชวังฤดูร้อน ซึ่งตัวพระราชวังเป็นอาคารขนาดกะทัดรัดตั้งอยู่กลางน้ำ ปัจจุบันพระราชวังได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์และใช้ในงานพิธีสำคัญ หรือรับรองคณะทูตานุทูตในโอกาสพิเศษต่าง ๆ ซึ่งเมื่อครั้งรัชกาลที่ 5 ประทับแรมที่นี่ ทรงมีพระราชหัตถเลขาว่า “เหมือนพระราชวังบางปะอินเพราะอยู่กลางสระน้ำ”
แม้จะประทับในวอร์ซอเป็นเวลาสั้น ๆ แต่ก็ทรงมีพระราชกรณียกิจหลายประการ เช่น การเสวยพระกระยาหารค่ำกับผู้สำเร็จราชการเมืองวอร์ซอ (ในบันทึกพระยาศรีสหเทพ (เส็ง) ผู้ตามเสด็จ เรียกว่าเป็นเมืองวาสอ มณฑลโปแลนด์ ด้วยเหตุที่ในปีที่เสด็จวอร์ซอนั้น พื้นที่ของโปแลนด์ถูกแบ่งแยกให้อยู่ภายใต้การปกครองของหลายมหาอำนาจ โดยวอร์ซออยู่ภายในการปกครองของจักรวรรดิรัสเซีย) ทอดพระเนตรละครโอเปรา ทอดพระเนตรการฝึกทหาร และเยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ กลางวอร์ซอ
ด้วยความที่ทรงเป็นกษัตริย์เอเชียพระองค์แรกที่เสด็จเยือนยุโรป ทรงมีบุคลิกเฉิดฉายของมหาบุรุษ สามารถตรัสภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่ว และทรงเป็นกษัตริย์ที่มี charisma สูง สามารถตรึงใจคู่สนทนาได้ในทุกโอกาสและทุกระดับ ระหว่างประพาสไปที่ประเทศใดหรือเมืองใดก็มักมีประชาชนในพื้นที่มารอรับเสด็จและรอชมพระบารมีกันมากมาย รวมทั้งในวอร์ซอด้วย ในบันทึกพระยาศรีสหเทพได้กล่าวถึงช่วงเวลาขณะทรงอยู่ที่วอร์ซอไว้ว่า “เวลาเสด็จพระราชดำเนินไปแห่งใด ราษฎรพลเมืองมีความรื่นเริงยินดีมาก โห่ถวายไชยมงคล เสียงกึกก้องโกลาหล”
ปี 2565 นี้ นอกจากเป็นปีสำคัญที่ไทยและโปแลนด์ฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 50 ปีแล้ว ยังถือเป็นปีครบรอบการเสด็จเยือนโปแลนด์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวครบ 125 ปีอีกด้วย

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ