ตามที่มีเหตุการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนยูเครนนั้น สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอเรียนความคืบหน้าเกี่ยวกับการดูแลคนไทยในยูเครน ดังนี้
1. สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ตั้งกลุ่มไลน์พิเศษสำหรับการติดต่อสื่อสารระหว่างสถานเอกอัครราชทูตฯ และกลุ่มคนไทยในยูเครน ซึ่งมีประมาณ 250 คน เพื่อแจ้งข่าวสารที่สำคัญและเป็นช่องทางติดต่อระหว่างกันอย่างทันท่วงที
2. เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2565 สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ประชุมทางไกลกับเจ้าของร้านสปา/นวดไทยในยูเครน จำนวน 16 แห่ง เพื่อสอบถามความเป็นอยู่ของแรงงานไทยและให้เตรียมพร้อมในการช่วยเหลือแรงงานไทยให้สอดคล้องกับแผนงานของสถานเอกอัครราชทูตฯ
3. เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2565 สถานเอกอัครราชทูตฯ ร่วมกับกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศได้ออกประกาศเตือนคนไทยที่ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยูเครนในระยะนี้ และขอให้คนไทยในยูเครนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
4. ระหว่างวันที่ 13-15 กุมภาพันธ์ 2565 นายเชษฐพันธ์ มากสัมพันธ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ และทีมเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้เดินทางโดยรถยนต์ไปยังเมือง Lviv ประเทศยูเครน เพื่อสำรวจความพร้อมในการที่จะใช้เมือง Lviv เป็นฐานในการอพยพคนไทยกลับประเทศไทยหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินโดยเครื่องบินหรือเดินทางเข้าโปแลนด์เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งในโอกาสดังกล่าว คณะฯ ได้พบหารือกับผู้จัดการสนามบินนานาชาติเมือง Lviv สำรวจเส้นทางจากเมือง Lviv ไปยังกรุงวอร์ซอ สำรวจโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร ศูนย์ตรวจ Covid-19 ฯลฯ
4. เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ร่วมประชุมกับกรมการกงสุลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยเพื่อเตรียมความพร้อมในการดูแลคนไทยในยูเครนหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน
5. หารือกับทางการยูเครนและโปแลนด์ที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือชุมชนไทยในยูเครนหากมีความจำเป็น
ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตฯ มีกำหนดพบปะหารือทางไกลกับพบผู้แทนพนักงานร้านไทยในเมืองต่าง ๆ ของยูเครนในวันพุธที่ 23 ก.พ. 2565 เพื่อสอบถามความเป็นอยู่ รับฟังปัญหาหรือข้อกังวลของชุมชนไทยในยูเครนด้วย