โครงการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุ

โครงการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุ

วันที่นำเข้าข้อมูล 22 พ.ค. 2561

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 16 มี.ค. 2564

| 577 view

รัฐบาลได้ดำเนินโครงการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2560 เป็นต้นมา เพื่อรองรับการดำเนินมาตรการให้เงินช่วยเหลือเพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยจำนวน 3.6 ล้านคน ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยนำเงินบริจาคมาจ่ายเป็นเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

รัฐบาลได้กำหนดแนวทางในการดำเนินการแจ้งการบริจาคเบี้ยยังชีพฯ ผ่านสถานเอกอัครราชทูตของไทยในต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2561 เป็นต้นไป มีรายละเอียด ดังนี้

1. คุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการบริจาคเบี้ยยังชีพฯ
ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปที่ได้รับเบี้ยยังชีพฯ (ได้ลงทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพฯ ณ หน่วยงานลงทะเบียนในประเทศไทยแล้ว)

2. เอกสารประกอบการแจ้งบริจาคเบี้ยยังชีพฯ ในต่างประเทศ 
2.1 กรณีแจ้งบริจาคด้วยตนเอง – นำบัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทางมาแจ้งความประสงค์ขอบริจาคได้ที่สถานเอกอัครราชทูตฯ
2.2 กรณีมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน – ให้นำหนังสือมอบอำนาจ พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทางของผู้มอบอำนาจ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทางของผู้รับมอบอำนาจมาด้วย

3. สิทธิประโยชน์ที่ผู้บริจาคเบี้ยยังชีพฯ จะได้รับ
3.1 เหรียญเชิดชูเกียรติ เพื่อเป็นการตอบแทนการเสียสละเงินเบี้ยยังชีพที่จะนำไปให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ
3.2 สิทธิในการหักค่าลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 1 เท่าของเงินบริจาค แต่เมื่อรวมกับเงินบริจาคอื่นแล้วไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักค่าลดหย่อน ซึ่งกองทุนผู้สูงอายุจะจัดส่งใบเสร็จรับเงินและเหรียญเชิดชูเกียรติให้แก่ผู้บริจาคตามที่อยู่ที่ระบุในประเทศไทยเท่านั้น

สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากคู่มือการรับบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ตามลิ้งค์ด้านล่าง

http://www.mfa.go.th/main/contents/files/manual.pdf